วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554
ชุด "บิกีนี" แพงที่สุดในโลก
ชุด บิกินีชุดนี้ประกอบได้เพชรกว่า 150 กะรัต ออกแบบโดยนักออกแบบนาม Susan Rosen ให้ แก่ Steinmetz Diamonds นางแบบผู้สวมใส่คือ Molly Sims เพื่อภ่ายรูปลงนิตยสาร Sports Illustrated’s ชุดบิกินีชุนี้ประกอบไปด้วยเพชรดังต่อไปนี้
เพชรรูปลูกแพร์ ( Pair diamonds ) หนัก 51 กะรัต จำนวน 1 เม็ด
มรกต หนัก 30 กะรัต จำนวน 1 เม็ด
เพชรรูปครึ่งวงกลม ( Round-cut diamonds ) หนัก 15 กะรัต จำนวน 2 เม็ด
เพชรรูปลูกแพร์ ( Pair diamonds ) หนัก 8 กะรัต จำนวน 2 เม็ด
และเพชรเม็ดเล็กอีก 23 กะรัต
ตัวเรือนทำจากทองคำขาว ( Platinum )
ในชุดนี้ประกอบไปด้วย บรา กางเกง และสร้อยคอ มูลค่า 30 ล้านเหรียญยูเอส ( 1,050 ล้านบาท ) จึงทำให้มันเป็นชุดบิกินีที่แพงที่สุดในโลก
credit http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94-%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81---24650
เพชรรูปลูกแพร์ ( Pair diamonds ) หนัก 51 กะรัต จำนวน 1 เม็ด
มรกต หนัก 30 กะรัต จำนวน 1 เม็ด
เพชรรูปครึ่งวงกลม ( Round-cut diamonds ) หนัก 15 กะรัต จำนวน 2 เม็ด
เพชรรูปลูกแพร์ ( Pair diamonds ) หนัก 8 กะรัต จำนวน 2 เม็ด
และเพชรเม็ดเล็กอีก 23 กะรัต
ตัวเรือนทำจากทองคำขาว ( Platinum )
ในชุดนี้ประกอบไปด้วย บรา กางเกง และสร้อยคอ มูลค่า 30 ล้านเหรียญยูเอส ( 1,050 ล้านบาท ) จึงทำให้มันเป็นชุดบิกินีที่แพงที่สุดในโลก
credit http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%94-%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B5-%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81---24650
7 เหตุผลที่ควรจะมีเซ็กส์
สำนักข่าว CNN เผยแพร่บทความของนักเขียนจากเวปไซต์ www.goodinbed.com ว่าจากการวิจัยหลายสำนักพบตรงกันว่า การมีเพศสัมพันธ์ และสุขภาวะทางเพศที่ดีนั้น จะทำให้สุขภาพดีขึ้นตามไปด้วยถึง 7 ประการด้วยกัน
"ผู้ชายถึงจุดสุดยอดมากกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจกว่า 50%"
การมีเซ็กส์ทำให้ดูอ่อนเยาว์
ผลการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 3,500 คนในกลุ่มอายุ 30 - 101 ปีพบว่า การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาแจ่มใส ดูอายุน้อยลงไป 4 - 7 ปี โดยการวิจัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของสก็อตแลนด์พบว่าคนวัยเดียวกันที่มีรูป ร่างหน้าตาอ่อนเยาว์ที่สุด เป็นผู้ที่มีเพศสัมพันธ์มากที่สุด ทั้งนี้เป็นเพราะการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้มีความมั่นใจในตัวเอง รวมถึงไปช่วยการเร่งสร้าง Growth Hormone ที่ทำให้กล้ามเนื้อบนร่างกายมีความสมบูรณ์ สวยงาม
การมีเซ็กส์ทำให้มีความสุข
แน่นอนอยู่แล้วที่การมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีความสุขและอิ่มเอมกับชีวิต และจากการศึกษาวิจัยพฤติกรรมทางเพศของผู้หญิง -300 คนเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย ได้ข้อสรุปว่า ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยเครียดน้อยกว่าผู้ที่ใช้ถุง ยางอนามัย การวิจัยพบว่าผู้หญิงจะไ้ด้รับฮอร์โมนที่เพิ่มความสุขจากฝ่ายชายที่ไม่ได้ ใช้ถุงยางอนามัย อย่างไรก็ตามการวิจัยให้ความเห็นไว้ว่า การมีเพศสัมพันธ์ก็ควรมีการป้องกันโรคติดต่อ หรือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ เพราะมิเช่นนั้น อาจจะยิ่งเครียดกว่าเดิม
การมีเซ็กส์ทำให้ผอมลง
โดยเฉลี่ยแล้วการมีเพศสัมพันธ์จะเผาผลาญพลังงาน 5 แคลอรี่ต่อนาที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของแต่ละคน การวิจัยพบว่า แม้เพียงเริ่มจูบคู่นอนของคุณ หัวใจก็จะเต้นเร็วขึ้น และไปเร่งกระบวนการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกาย
การมีเซ็กส์ช่วยป้องกันติดหวัด
การศึกษาของมหาวิทยาลัยวิลคส์ในรัฐเพนซิลเวเนียพบว่า นักศึกษาที่มีเพศสัมพันธ์หนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์ ร่างกายจะสร้างสารแอนติบอดี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันการติดเชื้อหวัดมากกว่าผู้ที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์
"การมีเซ็กส์ช่วยเผาผลาญแคลอรี่และป้องกันติดหวัด"
การมีเซ็กส์ช่วยให้ลดความประหม่า
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเพสลีย์ในสก็อตแลนด์ โดยนำชายและหญิง 46 คนให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งคนเหล่านั้นถูกสั่งให้แกล้งทำหน้าตาเบื่อหน่ายปรากฎว่า เมื่อนำผลการตรวจวัดความดันโลหิตของกลุ่มตัวอย่างพบว่า ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความดันโลหิตต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับผู้อื่น ซึ่งแสดงว่าประหม่าน้อยกว่าคนอื่น
การมีเซ็กส์ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ
จากผลการวิจัยของสถาบันโรคหัวใจแห่งอเมริกาพบว่า ผู้ชายที่มีอากาศอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือ ED เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสุขภาพของหัวใจเริ่มไม่ดีแล้ว เพราะจากการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 2,300 คนในระยะเวลา 4 ปีพบว่าผู้ชายที่มีอาการ ED นั้น กว่าร้อยละ 58 มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ขณะที่ผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่าผู้ชายที่ถึงจุดสุดยอดมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้ถึง 50% ทั้งนี้เป็นเพราะการถึงจุดสุดยอดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน DHEA ที่ช่วยการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย
การมีเซ็กส์ช่วยให้อายุยืน
ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน British Medical Journal ระบุว่าผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์น้อยกว่า 1 ครั้งต่อเดือน มีโอกาสเสียชีวิตภายใน 10 ปีมากกว่าผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละครั้งถึง 2 เท่า และไม่เพียงแต่เพศชายเท่านั้น การศึกษาของมหาวิทยาลัยดุค ยังพบว่า ผู้หญิงที่ยอมรับว่าเธอมีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์ จะมีอายุยืนกว่าผู้หญิงที่ไม่มีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์ 7 - 8 ปี
"ผู้ชายถึงจุดสุดยอดมากกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ลดความเสี่ยงโรคหัวใจกว่า 50%"
การมีเซ็กส์ทำให้ดูอ่อนเยาว์
ผลการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 3,500 คนในกลุ่มอายุ 30 - 101 ปีพบว่า การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผู้นั้นมีรูปร่างหน้าตาแจ่มใส ดูอายุน้อยลงไป 4 - 7 ปี โดยการวิจัยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของสก็อตแลนด์พบว่าคนวัยเดียวกันที่มีรูป ร่างหน้าตาอ่อนเยาว์ที่สุด เป็นผู้ที่มีเพศสัมพันธ์มากที่สุด ทั้งนี้เป็นเพราะการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้มีความมั่นใจในตัวเอง รวมถึงไปช่วยการเร่งสร้าง Growth Hormone ที่ทำให้กล้ามเนื้อบนร่างกายมีความสมบูรณ์ สวยงาม
การมีเซ็กส์ทำให้มีความสุข
แน่นอนอยู่แล้วที่การมีเพศสัมพันธ์ทำให้มีความสุขและอิ่มเอมกับชีวิต และจากการศึกษาวิจัยพฤติกรรมทางเพศของผู้หญิง -300 คนเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัย ได้ข้อสรุปว่า ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยเครียดน้อยกว่าผู้ที่ใช้ถุง ยางอนามัย การวิจัยพบว่าผู้หญิงจะไ้ด้รับฮอร์โมนที่เพิ่มความสุขจากฝ่ายชายที่ไม่ได้ ใช้ถุงยางอนามัย อย่างไรก็ตามการวิจัยให้ความเห็นไว้ว่า การมีเพศสัมพันธ์ก็ควรมีการป้องกันโรคติดต่อ หรือการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ เพราะมิเช่นนั้น อาจจะยิ่งเครียดกว่าเดิม
การมีเซ็กส์ทำให้ผอมลง
โดยเฉลี่ยแล้วการมีเพศสัมพันธ์จะเผาผลาญพลังงาน 5 แคลอรี่ต่อนาที แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของแต่ละคน การวิจัยพบว่า แม้เพียงเริ่มจูบคู่นอนของคุณ หัวใจก็จะเต้นเร็วขึ้น และไปเร่งกระบวนการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกาย
การมีเซ็กส์ช่วยป้องกันติดหวัด
การศึกษาของมหาวิทยาลัยวิลคส์ในรัฐเพนซิลเวเนียพบว่า นักศึกษาที่มีเพศสัมพันธ์หนึ่งหรือสองครั้งต่อสัปดาห์ ร่างกายจะสร้างสารแอนติบอดี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันการติดเชื้อหวัดมากกว่าผู้ที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์
"การมีเซ็กส์ช่วยเผาผลาญแคลอรี่และป้องกันติดหวัด"
การมีเซ็กส์ช่วยให้ลดความประหม่า
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยเพสลีย์ในสก็อตแลนด์ โดยนำชายและหญิง 46 คนให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งคนเหล่านั้นถูกสั่งให้แกล้งทำหน้าตาเบื่อหน่ายปรากฎว่า เมื่อนำผลการตรวจวัดความดันโลหิตของกลุ่มตัวอย่างพบว่า ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความดันโลหิตต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับผู้อื่น ซึ่งแสดงว่าประหม่าน้อยกว่าคนอื่น
การมีเซ็กส์ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ
จากผลการวิจัยของสถาบันโรคหัวใจแห่งอเมริกาพบว่า ผู้ชายที่มีอากาศอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือ ED เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าสุขภาพของหัวใจเริ่มไม่ดีแล้ว เพราะจากการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 2,300 คนในระยะเวลา 4 ปีพบว่าผู้ชายที่มีอาการ ED นั้น กว่าร้อยละ 58 มีภาวะเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ขณะที่ผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่าผู้ชายที่ถึงจุดสุดยอดมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้ถึง 50% ทั้งนี้เป็นเพราะการถึงจุดสุดยอดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน DHEA ที่ช่วยการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย
การมีเซ็กส์ช่วยให้อายุยืน
ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน British Medical Journal ระบุว่าผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์น้อยกว่า 1 ครั้งต่อเดือน มีโอกาสเสียชีวิตภายใน 10 ปีมากกว่าผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์สัปดาห์ละครั้งถึง 2 เท่า และไม่เพียงแต่เพศชายเท่านั้น การศึกษาของมหาวิทยาลัยดุค ยังพบว่า ผู้หญิงที่ยอมรับว่าเธอมีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์ จะมีอายุยืนกว่าผู้หญิงที่ไม่มีความสุขกับการมีเพศสัมพันธ์ 7 - 8 ปี
เต้าหู้เหม็น
เต้าหู้เหม็น ! สีดำปี๋ กลิ่นก็แรง
หยึย..แล้ว
เห็น หน้าตางี้ มีคนติดใจเยอะแยะ แถมยังได้เข้าวัง ขึ้นโต๊ะเสวยของ "พระนางซูสีไทเฮา" โปรดขนาดขาดไม่ได้ มีลูกล่อลูกชนต้องจับผิด เมื่อขันทีซื้อไม่ทัน แอบเอาของเก่าถวาย
ถึง แม้จะมีมาแต่โบราณ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ราว ๆ ปีที่ 8 แห่งรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิคังซี (พ.ศ. 2212) แต่ก็ยังเป็นที่นิยมถึงปัจจุบัน
จานนี้ดูดีหน่อย ขายในร้าน
เต้าหู้ เหม็น หรือ โช่วโต้วฟู ?????เป็นอาหารขึ้นชื่อของจีน รวมทั้งไต้หวันด้วย ถึงขนาดเคยมีคนกล่าวว่า ไปเมืองจีนไม่กินเต้าหู้เหม็น ถือว่ายังไปไม่ถึงเมืองจีน เชียวนะ
เค้า ว่าที่มีกลิ่นเหม็นเพราะเป็นเต้าหู้ที่ไม่ได้ผ่านการฟอกสี ฟอกกลิ่น กลิ่นของเต้าหู้จึงเป็นกลิ่นของถั่วที่แรงมาก แถมยังมีเครื่องปรุงและส่วนประกอบอื่น ๆ มาหมักเอาไว้ แต่คนที่ตัดสินใจลองชิมแล้วมักจะติดใจ จนลืมเรื่องกลิ่นไปเลย
อยากรู้จัก เต้าหู้เหม็น ให้มากกว่านี้ แล้วจะรู้ว่าทำไมคนถึงชอบ เค้าจะบอกว่าลืมกลิ่นเหม็นได้เพราะอะไร
Credit : http://webboard.sanook.com jam-sugar.exteen.com
แบบทอด ในกระทะก้อดู
เห็น หน้าตางี้ มีคนติดใจเยอะแยะ แถมยังได้เข้าวัง ขึ้นโต๊ะเสวยของ "พระนางซูสีไทเฮา" โปรดขนาดขาดไม่ได้ มีลูกล่อลูกชนต้องจับผิด เมื่อขันทีซื้อไม่ทัน แอบเอาของเก่าถวาย
ถึง แม้จะมีมาแต่โบราณ ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง ราว ๆ ปีที่ 8 แห่งรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิคังซี (พ.ศ. 2212) แต่ก็ยังเป็นที่นิยมถึงปัจจุบัน
จานนี้ดูดีหน่อย ขายในร้าน
เต้าหู้ เหม็น หรือ โช่วโต้วฟู ?????เป็นอาหารขึ้นชื่อของจีน รวมทั้งไต้หวันด้วย ถึงขนาดเคยมีคนกล่าวว่า ไปเมืองจีนไม่กินเต้าหู้เหม็น ถือว่ายังไปไม่ถึงเมืองจีน เชียวนะ
เค้า ว่าที่มีกลิ่นเหม็นเพราะเป็นเต้าหู้ที่ไม่ได้ผ่านการฟอกสี ฟอกกลิ่น กลิ่นของเต้าหู้จึงเป็นกลิ่นของถั่วที่แรงมาก แถมยังมีเครื่องปรุงและส่วนประกอบอื่น ๆ มาหมักเอาไว้ แต่คนที่ตัดสินใจลองชิมแล้วมักจะติดใจ จนลืมเรื่องกลิ่นไปเลย
อยากรู้จัก เต้าหู้เหม็น ให้มากกว่านี้ แล้วจะรู้ว่าทำไมคนถึงชอบ เค้าจะบอกว่าลืมกลิ่นเหม็นได้เพราะอะไร
Credit : http://webboard.sanook.com jam-sugar.exteen.com
สมาคมมุขเสี่ยวๆ ที่เสี่ยวอย่างมีสาระ
1.ความรักที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุด คือ ความรักที่รู้อยู่แต่แรกแล้วว่า..."รักไม่ ได้"
2.ความรักไม่สามารถเปรียบได้กับการตบมือหรอก
3."เรารักเธอ หมดใจ" กับ "เรารัก เธอหมดใจ" ความรู้สึกมันต่างกันนะ เพราะมันมีช่องว่างระหว่างเรา กับ เธอ ..
4.ลำปางไม่หนาวเท่าลำพัง
5.คนๆ หนึ่งมองการไกล เพื่อจะใช้ชีวิตเดินไปด้วยกัน ขณะที่อีกคนนั่งมองกรรไกร เพื่อจะตัดความสัมพันธ์
6.รู้มั้ยทำไมถึงบอกว่า "เมาเหล้า" ดีกว่า "เมารัก" เพราะ "อาการแฮงค์" ฟื้นตัวเร็วกว่า "อาการเฮิร์ท"
7."เลย" เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศไทย แต่ "ละเลย" เป็นจังหวะหนึ่งของคน...เริ่มหมดใจ
8.เจอรองเท้าถูกใจแต่ไม่มีsize ก็เหมือนเจอคนที่ใช่แต่เข้ากันไม่ได้
9.สัจธรรมความรัก "คนที่ไม่่ใช่" ทำมา100 แต่ได้คะแนน แค่ 1 "คนที่ใช่" ทำมาแค่1 แต่อาจได้คะแนนเป็น 100
10.บางทีการมีแฟนก็เหมือนการเลี้ยงแมวนะ คุณฝึกแมวให้ตามใจคุณไม่ได้ ... แต่แมวฝึกคุณให้ตามใจมันได้
credit http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%86-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B0---24706
10อสรพิษร้าย ไม่ดังแต่พลังล้นเหลือ
ทุกๆคนคงรู้จักงูเห่า งูหางกระดิ่ง กันดี แต่ว่าบนโลกนี้ยังมีงูพิษอีกมากกกก ที่เราอาจไม่เคยได้ยินชื่อ ที่นำมานี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง แต่ มีฤทธิ์ถึงตาย
อันดับ10 : Water cobra
Water cobra แปลตรงตัวก็คืองูเห่าน้ำนั่นแหละ ถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับงูเห่าของจริงอยู่ แต่อยู่กันคนละจีนัส (Genus) ที่ได้ชื่อว่างูเห่ามาแบบนี้เพราะความสามารถในการแผ่แม่เบี้ย ที่คล้ายคลึงกับของแท้จากงูเห่าที่โด่งดังนั่นเอง … แต่ยังไงก็ของก๊อปละว้า Water cobra มีสองสายพันธุ์บนโลก พบได้ในแอฟริกา และสามารถโตได้ถึง 2.7เมตร (8.86ฟุต) พวกมันใช้ชีวิตอยู่ในน้ำมากกว่าครึ่งชีวิตของมัน ไม่เคยเดินทางไปไกลๆแหล่งน้ำเลย (งี้แหละนะโลกร้อน แม่งเอ้ย อยากจะนอนแช่น้ำบ้างจริงๆ) และสามารถอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานานโดยไม่ขึ้นมาหายใจ งูชนิดนี้มีพิษร้ายมาก แต่ขี้อาย ยากที่จะกัด จะมีการฝังเขี้ยวหรรษาเกิดขึ้นเมื่อจำเป็นเท่านั้น แต่ต้องไม่สับสนงูชนิดนี้กับงูเห่าปลอม(Hydrodynastes) จากอเมริกาใต้ ซึ่งตัวใหญ่กว่าและไม่อันตรายเท่าอันดับ10 : Water cobra
อันดับ9 : Mamushi
มามูชิ เป็นงูที่อันตรายที่สุดในญี่ปุ่น สามารถพบได้ที่เกาหลีและจีนได้เช่นกัน ดูหน้ามันก็รู้แล้วว่าไปเสริมดั้งที่เกาหลีมาชัวร์เลย มันถูกจัดอยู่ใน family เดียวกับงูหางกระดิ่ง และอเมริกันคอปเปอร์เฮด(สำหรับคนที่ไม่รู้จัก สองตัวนี้คืองูพิษที่พิษแรงมาก) หรือที่เรียกว่าพวก Pit viper มามูชิคุงสามารถโตได้ยาวสุดถึง 90 cm. (3ฟุต) มีขนาดเล็กกว่าเพื่อนๆ แต่กลับมีความอันตรายร้ายแรงสูงมาก เนื่องมาจากพิษที่จะเข้าไปทำลายระบบเลือด ซึ่งจะถูกฉีดผ่านเขี้ยวที่ยาวคมของมัน อาหารจานโปรดของมันคือพวกปลา กบ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กๆ
อันดับ8 : Mexican Jumping Viper
ด้วยร่างกายอ้วนเตี้ยหนาสั้นบวมหัวแบนของมันนั้น ทำให้นึกถึงงูจากแอฟริกาเช่นพัฟแอดเดอร์(puff-Adder)หรือ กาบูนไวเปอร์(Gaboon viper) มากกว่า ทั้งๆที่จริงๆแล้วจะพบมันในป่าฝนแถบแมกซิโกและอเมริกากลาง พวกมันโด่งดั่งในเรื่องการฉกแบบฮาร์ดคอร์ที่บ้าพลังมากจนร่างของมันทั้งร่าง จะลอยขึ้นจากพื้นเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม พวกมันเป็นงูที่ขี้อายนะฮ้าฟ และจะจู่โจมเมื่อจำเป็นเท่านั้น
แต่ว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง มันก็จะกัดด้วยแรงที่มหาศาลกว่างูอื่นๆหลายเท่า และแทนที่มันจะกัดแบบจิ้มลิ้ม ฉก-ฉีด-ปล่อย มันกลับงับร่างของศัตรูเอาไว้และเคี้ยวๆเพื่อให้พิษไหลลงไปมากที่สุดเท่าที่ จะทำได้ เหมือนเด็กเก็บกดที่พอระเบิดทั้งทีก็โหวกเหวกโวยวายตะโกนฟักยู้วเฮ้ยๆแล้ว ทำลายข้าวของ
Mexican jumping viper สามารถโตได้ถึง1.2เมตร(4ฟุต) และพิษของมันมีอำนาจในการต่อต้านการแข็งตัวของเลือดมนุษย์ นั่นหมายความว่าเมื่อโดนกัดจะทำให้ เลือดจะไหลไม่หยุด!!
อันดับ7 : Coral Cobra
อีกแล้ว!! เจ้างูสีสวยเรืองรองดั่งแสงอาทิตย์ยามเย็นตัวนี้ไม่ใช่งูเห่าแท้ๆ แต่ได้ชื่อ Cobra มาก็เพราะ ศิลปะในการฉกของมัน กับความสามารถในการแผ่แม่เบี้ย คอรัลคุงจะพบได้ในแอฟริกา และมีพิษร้ายแรงขั้นเมพ แต่มีเขี้ยวสั้นกระจิ๊ดและสายตาห่วยแตก เหมือนพวกเล่นเกมแล้วเสือกอัพแต่พลังโจมตี แต่ลืมอัพสปีดเลยวิ่งไล่สไลม์ไม่ทัน แต่จริงๆแล้วที่สายตาไม่ดีก็เพราะมันมีไลฟ์สไตล์ใต้ดินน่ะ 555
แต่ยังไงก็เถอะ ควรจะหลบๆเจ้านี่เอาไว้ เพราะพิษของมันยังไม่มียาแก้!! คอรัลคุงจะกินกิ้งก่าและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวจิ๋วเป็นอาหาร เทพๆๆ
อันดับ6 : Spiny Tree Viper
มาแล้วๆๆๆ ตัวโปรดจขบ.เลย เจ้างูหน้าตาไฮโซที่มาพร้อมกับแววตามั่นคงดึงดูดสาวๆตัวนี้สามารถพบได้ในป่า ฝนของแอฟริกา เกล็ดของมันเอียงเปิดออกและทำให้ผิวของมันมีหนามๆออกมา และที่สำคัญ หล่อไม่พอยังเมพอีก เพราะยังไม่มียาแก้พิษโดยตรงสำหรับมัน ยาแก้พิษงูอื่นๆเท่าที่มีก็แทบจะไม่มีผลหรือไม่มีเลยกับเหยื่อที่โดนมันกัด เพราะฉะนั้น เจ้างูตัวน้อย(ยาว40-70cm)แต่อันตรายนี้ ควรจะถูกปฏิบัติอย่างนุ่มนวลและเคารพกันและกันไม่งั้น ตาย!!
ปล. หล่อแต่เตี้ยนี่หว่าเฮ้ย
อันดับ5 : Hognosed Pitviper
ฮอกโนส ชื่อดูมีสไตล์จัง 5555
อีกตัวแล้วที่มีสัญชาติเป็นชาวแมกซิกัน อเมริกากลางและใต้ ฮอกโนสคุงตัวนี้มีขนาดเล็ก(75cm หรือ 2.5ฟุต) แต่มีพิษสงร้ายแรงที่สามารถทำลายเซลล์เลือดได้
ฮอกโนสตัวนี้แทบจะไม่มีชื่อเสียงเลยและอาศัยอยู่ในป่าฝน ส่วนมากในแถบใกล้ชายฝั่ง..จบแล้ว = ='
อันดับ4 : Burrowing Asp
นี่อาจเป็นหนึ่งในงูที่ประหลาดที่สุดในโลกเลยก็ได้ เจ้าเบอร์โรววิ่งเมพตัวนี้อาศัยอยู่ในแอฟริกา โดยเขี้ยวของมันยาวมาก ยาวแบบชิบหายจนเลยออกมานอกปากของมัน เหมือนพวกเขี้ยวดาบ (saberteeth ถ้าสงสัยว่าคืออะไรลองพิมพ์ในกูเกิ้ลว่า เสือเขี้ยวดาบ) ซึ่งทำให้มันสามารถกัดเหยื่อโดยไม่ต้องอ้าปากเลยทีเดียว แต่ตัวเล็กและตาไม่ดีแถมพิษไม่แรง (มาอีกตัวและ แต่นี่อัพแต่สปีด พลังโจมตีไม่มี) เบอร์โรววิ่งเมพพิษไม่แรงพอจะฆ่าผู้ใหญ่ที่แข็งแรงได้ แต่ก็มีเด็กที่ตายจากการโดนกัดเช่นกัน
อันดับ3 : Twig Snake
ว้าว เจ้างูตากลมโตสดใสหุ่นผอมเพรียวเรียวงามอันเป็นที่ดึงดูดสายตาเหล่าชายตัวนี้อาศัยในแอฟริกา ถูกจัดให้อยู่ใน Family Colubridae ซึ่งแต่ละตัวในตระกูลนี้มาเฟียโหดๆทั้งนั้น เช่น บูมสแลง(boomslang) แค่ชื่อก็โหดแล้วแถมยังเป็นมาเฟียหัวโจกแก๊งColubridaeที่โด่งดังในแอฟริกา ผู้เป็นหนึ่งในงูที่อันตรายระดับเวิล์ดคลาส
เช่นเดียวกับหัวหน้าแก๊งของมัน ทวิกจังมีเขี้ยวพิษอยู่ที่ส่วนหลังของปาก ซึ่งทำให้เธออันตรายน้อยกว่างูเห่าหรือพวกแก๊งPit viper แต่อย่างไรก็ตาม พิษของสาวงามทวิกจังเป็นพิษระดับพ่อยังกลัว ผู้เชี่ยวชาญด้านงูจากเยอรมันคนหนึ่ง โรเบิร์ต เมอร์เตินส์(Robert Mertens) ถูกฆ่าตายโดยทวิกหลังจากที่เก็บเธอมาเลี้ยง
อาหารจานโปรดสำหรับเธอคือกิ้งก่าและนก ทวิกจังได้ชื่อมาจากการพรางตัวเลียนแบบกิ่งไม้(twig)บนต้นไม้ และยังขยับตัวเนียนๆให้ดูเหมือนมีลมพัดได้อีกด้วย ทำให้เธอยากมากที่จะถูกมองเห็นได้
อันดับ2 : Death Adder
แค่ชื่อก็สะท้านไปถึงซีรีเบลลัม เดธแอดเดอร์ ไม่ใช่พวกViperที่แท้จริง แต่เป็นกลุ่มfamily Elapidae วงศ์ตระกูลอันโด่งดังระดับโลกที่มีทั้งงูเห่าและคอรัลสเนคอยู่ในสังกัด
เดธแอดเดอร์พบในออสเตรเลีย นิวกีนีและเกาะทั้งหลายใกล้เคียง และมันมีพิษที่มีอำนาจสูงส่งกว่างูอื่นใด แต่โชคดีที่มียาแก้พิษสำหรับงูชนิดนี้แล้ว (ดูเป็นพวกอดีตบอสเทพๆที่พอสู้แพ้ก็วางมือกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบ ไรเงี้ย) ซึ่งสามารถลดจำนวนเหยื่อที่ตายไปได้มากเลยทีเดียว แต่ยังไงก็ตามในนิวกินียังมีคนที่ตายจากการโดนเดธแอดเดอร์ฝังคมเขี้ยวอยู่ ทุกๆปี พวกมันโด่งดังมากๆในออสเตรเลีย แต่แทบจะไม่ได้ยินชื่อในแถบอื่นบนโลกเลย
และแล้วก็มาถึงอันดับ1 : Golden Lancehead !!!
โกลเด้นแลนซ์เฮด จขบ.ขอยกให้เป็นงูที่ไม่สังกัดพวกใดๆทั้งสิ้น มีอำนาจสูงส่งเหลือเกิน อาจเป็นพวกบอสเฝ้าสมบัติล้ำค่าเลยก็ได้
สามารถพบพวกมันได้ในเกาะของบราซิล “Queimada Grande” พวกPitviperพวกนี้ได้พัฒนาตัวเองให้สามารถล่าได้ในที่ที่มีแต่นกให้กิน (เกาะนี้ไม่มีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตามธรรมชาติ) เพื่อไม่ให้เหยื่อบินหายไป ท่านลอร์ดโกลเด้นแลนซ์เฮดได้ฟิตพิษร้ายของท่านจนแข็งแกร่ง และแผลงฤทธิ์ได้เร็ว
เกาะ Queimada Grande นั้นเป็นเพียงที่เดียวบนโลกที่มีงูชนิดนี้อาศัยอยู่ (บอกแล้ว มันเป็นพวกไม่สังกัดฝ่ายแบบเทพ) แต่จำนวนของมันหนาแน่นมากจนเกาะนี้ต้องถูกปิดโดยรัฐบาลเลยทีเดียว แถมยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่อันตรายที่สุดระดับโลกอีกด้วย
แต่ว่ายังไม่มีบันทึกที่ว่ามีคนตายจากท่านลอร์ดโกลเด้นแลนซ์เฮดนี่เลย ยังไงก็ตามผู้คนที่อาศัยในเกาะข้างเคียงก็จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับว่า เคยมีคนกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ในเกาะของโกลเด้นแลนช์เฮดต้องพบกับความตายอันน่า สะพรึงกลัว
และเรื่องเล่าที่ว่า มีคนเข้าไปเก็บกล้วยในเกาะ แต่พบอีกทีก็กลายเป็นซากศพอยู่บนเรือ จมอยู่ท่ามกลางกองเลือดของเขาเอง หลังจากที่โดนกัดโดยโกลเด้นแลนซ์เฮด1หรือมากกว่านั้นรุมกัด
แต่เรื่องเล่าที่โด่งดังที่สุดคือ ผู้ควบคุมของประภาคารเก่าๆบนเกาะและครอบครัวของเขา(ภรรยาและลูกๆอีก3คน) พบว่าแลนซ์เฮดได้บุกเข้ามาในบ้านทางหน้าต่างในคืนวันหนึ่ง ด้วยความกลัวและตกใจ พวกเขารีบวิ่งออกจากประภาคารเพื่อหนี และพยายามที่จะตรงไปยังเรือ เพื่อเอาชีวิตรอดออกจากเกาะ
แต่โชคร้ายพวกเขาไปได้ไม่ไกลก็ต้องพบกับจุดจบอันน่าสะพรึงกลัวโดยงูจำนวนมากมายที่แขวนอยู่ตามต้นไม้เหนือหัวของพวกเขา……
credit http://tanbabasnake.exteen.com/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)